บทที่ ๒
เนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้อง
ความหมายของทับทิม
ผลไม้
ทับทิม
มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Punica
granatum L.วงศ์ Punicaceae ภาษาอังกฤษเรียก Pomegranate
ชื่อท้องถิ่น เซี๊ยะลิ้ว, พิลา, พิลาขาว, มะก่องแก้ว, มะเก๊าะ, หมากจัง เป็นไม้ผลขนาดเล็ก มีขนาดประมาณ ๕-๘ เมตร
ทับทิม
เป็นผลไม้ที่สวยงามและมีกลิ่นหอมมาก ทับทิมสามารถปลูกได้ในประเทศไทย
แต่ที่แท้จริงเป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากเปอร์เซีย (ประเทศอิหร่านในปัจจุบัน) ทับทิมเป็นผลไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์
ในประวัติศาสตร์ พบว่าได้มีการนำทับทิมมาทำเป็นยารักษาโรคตั้งแต่ 8,000 ปีมาแล้ว ในประเทศเปอร์เซียโบราณมีความเชื่อว่า คุณค่าทางอาหารทุกชนิดที่มีอยู่ในผลไม้ต่าง ๆ นั้น รวมกันอยู่ในทับทิม ทับทิมเป็นผลไม้ที่ได้รับการเพาะปลูกอย่างแพร่หลาย
และทำเป็นผลิตภัณฑ์ ไปทั่วโลก ในทับทิม มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ซึ่งมีมากทั้งใน เปลือก
เมล็ด และน้ำทับทิม ได้แก่ polyphenols, anthocyanins,
anthrocyanidins, ellagic acid derivatives, และ ydrolysable
tannins
ทับทิมเป็นผลไม้มีรสหวานหรือเปรี้ยวอมหวาน
น้ำคั้นจากเมล็ดทับทิมมีกลิ่นหอมชวนดื่ม ประกอบด้วยน้ำตาลและกรดที่เป็นประโยชน์ รวมถึงวิตามินเอ
ซี อี ธาตุเหล็ก แคลเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งเป็นธาตุสำคัญที่ร่างกายต้องการซึ่งส่วนต่างๆของผลทับทิมมีประโยชน์มากมายตามนี้
(โททอลครีม.[ออนไลน์]. https://www.facebook.com/notes/).
อัญมณี
ทับทิม หรือ มณี ,รัตนราช,ปัทมราช (ภาษาอังกฤษ: Ruby)
เป็นรัตนชาติชนิดหนึ่ง
จัดอยู่ในตระกูลคอรันดัม(Corundum)
เช่นเดียวกับบุษราคัม ไพลิน เขียวส่องและ Fancy
shappire มีความแข็งรองจากเพชรเป็นที่นิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับมาก
เพราะมีสีสวยและมีความแข็งแกร่งเปล่งประกายจับตา
เป็นที่นิยมมากกว่าอัญมณีสีแดงชนิดอื่นๆ มนุษย์รู้จักทับทิมมานาน
กษัตริย์มักนำมาประดับมงกุฎและสวมใส่ออกขณะรบ เป็นที่แพร่หลายมากๆในชมพูทวีป
ทับทิมในภาษาสันสกฤตโบราณคือ “ratanraj”
หมายถึงเจ้าแห่งอัญมณีทั้งปวง จนทับทิมถูกขนานนามว่าอัญมณีแห่งราชา
ในประเทศไทยนั้นถือว่าทับทิมเป็นอัญมณีหนึ่งในนพรัตน์
โดยธรรมชาตินั้นทับทิมมักมีเนื้อขุ่น
ตำหนิมากบางชิ้นทึบแสงดูไม่สวยงามดังนั้นทับทิมในท้องตลาดส่วนใหญ่ผ่านการเพิ่มคุณภาพด้วยความร้อนมาแทบทั้งสิ้น
สีที่นับว่าหายากและราคาแพงมหาศาลคือ
สีแดงสดแบบเลือดนกพิราบเนื้อใสสะอาดสมบูรณ์แบบทั้งสัดส่วนและประกายขนาด 3-4กะรัตอาจจะมีราคาสูงกว่า 7 หลัก
ถ้าสูงกะรัตกว่านี้จะหายากมากๆราคาอาจถึง 8หลักเลยทีเดียว
สีแดงอมชมพูก็เป็นที่นิยมอย่างมากส่วนใหญ่มาจากพม่า
มีราคาสูงมาก นอกจากนั้นทับทิมยังมีการเกิดปรากฏการณ์สตาร์ มีลักษณะสาแหรกเนดาว 6 แฉกอยู่กลางพลอย
ชนิดนี้ก็มีราคาสูงจะเจียระไนทรงหลังเต่า หลังเบี้ยแต่ควรระวังของปลอม
ปัจจุบันมีการทำ “ดาวปลอม”ด้วยการดิฟิวชั่น
ข้อสังเกตคือของธรรมชาติจะไม่มีเส้นแฉกดาวคมชัดและเห็นยาวไม่จนถึงก้น
ลักษณะขาดาวอาจเลือนๆและดูเหมือนอยู่ลึกลงไปในพลอย
ก้นพลอยอาจไม่มีการเจียระไนแต่โกลนไว้เฉยๆก็ได้ ทับทิมที่มีความงาม
ประกายดีและสะอาดจะถูกเจีนระไนแบบเหลี่ยมประกาย ส่วนที่มีตำหนิมักเจียระไนแบบหลังเต่าหรือหลังเบี้ย (วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี.[ออนไลน์]. http://th.wikipedia.org/wiki/).
ลักษณะของทับทิม
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Punica
granatum L.
ชื่อสามัญ : Pomegranate
, Punica apple
วงศ์ : Punicaceae
ชื่ออื่น : พิลา (หนองคาย) พิลาขาว มะก่องแก้ว (น่าน) มะเก๊าะ (เหนือ) หมากจัง
(แม่ฮ่องสอน)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ยืนต้น หรือพรรณไม้พุ่ม ขนาดเล็ก ลักษณะผิวเปลือกลำต้นเป็นสีเทา
ส่วนที่เป็นกิ่งหรือยอดอ่อนจะเป็นเหลี่ยม หรือ มีหนามแหลมยาวขึ้น ใบ ใบมีลักษณะเป็นรูปยาวรี
โคนใบมน แคบ ส่วนปลายใบเรียวแหลมสั้น ผิวหลังใบ เกลี้ยงเป็นมัน
ใต้ท้องใบจะเห็นเส้นใบได้ชัด ขนาดของใบกว้างประมาณ 1 – 1.8 ซม.
ยาว ประมาณ 2.5 – 6 ซม. ดอก ดอกออกเป็นช่อ หรืออาจจะเป็น
ดอกเดียว ในบริเวณปลายยอด หรือง่ามกิ่ง ลักษณะของดอกมีเป็น สีส้ม สีขาว หรือสีแดง
ดอกหนึ่งมีกลีบดอกประมาณ 6 กลีบ ปลายกลีบ ดอกจะแยกออกจากกัน
ตรงกลางดอกมีเกสร ตัวเมีย และตัวผู้ซึ่งมีอับเรณูเป็นสีเหลือง
ขนาดของดอกบานเต็มที่มีเส้นผ้าศูนย์กลางประมาณ 2 – 3 ซม.
ผลมีลักษณะเป็นรูปค่อนข้าง กลม ผิวเปลือกนอกหนาเกลี้ยง ผลเมื่อแก่หรือ สุกเต็มที่มีสีเหลืองปนแดง
และลักษณะของผล จะแตก หรืออ้างออก ข้างในผลก็จะมีเมล็ดเป็น จำนวนมาก
เป็นรูปเหลี่ยม มีสีชมพูสด ดอก ดอกออกเป็นช่อ หรืออาจจะเป็น ดอกเดียว
ในบริเวณปลายยอด หรือง่ามกิ่ง ลักษณะของดอกมีเป็น สีส้ม สีขาว หรือสีแดง
ดอกหนึ่งมีกลีบดอกประมาณ 6 กลีบ ปลายกลีบ ดอกจะแยกออกจากกัน
ตรงกลางดอกมีเกสร ตัวเมีย และตัวผู้ซึ่งมีอับเรณูเป็นสีเหลือง
ขนาดของดอกบานเต็มที่มีเส้นผ้าศูนย์กลางประมาณ 2 – 3 ซม.
ผลมีลักษณะเป็นรูปค่อนข้าง กลม ผิวเปลือกนอกหนาเกลี้ยง ผลเมื่อแก่หรือ
สุกเต็มที่มีสีเหลืองปนแดง และลักษณะของผล จะแตก หรืออ้างออก
ข้างในผลก็จะมีเมล็ดเป็น จำนวนมาก เป็นรูปเหลี่ยม มีสีชมพูสด (สรรพคุณสมุนไพร.[ออนไลน์].http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/).
ประโยชน์ด้านต่างๆ ของทับทิม
เมล็ดทับทิมมีเนื้อหุ้มใสสีแดงเข้มเป็นประกายนั้น
มองดูคล้ายพลอยแดงน้ำดีที่เจียระไนแล้ว สมกับที่มีผู้ยกย่องทับทิมว่าเป็น“อัญมณีแห่งผลไม้” นอกจากความงดงามแล้ว รสชาติของทับทิมยังดีเยี่ยมอีกด้วย
น้ำคั้นจากผลทับทิมดื่มแล้วสดชื่นแก้กระหายน้ำได้ดีมาก
เพราะมีทั้งน้ำตาลและกรดที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะกรดแอสคอร์บิกหรือวิตามินซี
ซึ่งช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิดด้วย
เนื่องจากทับทิมเป็นต้นไม้ที่มีคุณสมบัติด้านสมุนไพรที่เด่นมากชนิดหนึ่ง
สามารถนำเอาส่วนต่างๆ มาทำยารักษาโรคได้หลายชนิด
เป็นที่รู้จักดีในกลุ่มคนหลายกลุ่มมาแต่โบราณกาล เช่น ชาวอียิปต์ และชาวฟีนีเซี่ยน
เมื่อหลายพันปีมาแล้วก็ใช้ทับทิมเป็นสมุนไพร ต่อเนื่องมาถึงกลุ่มชนอื่นๆ เช่น
ชาวอาหรับ ใช้เปลือกรากทับทิมสดๆ
ต้มน้ำ ใช้ดื่มถ่ายพยาธิตัวตืด ใช้เปลือกผลทับทิม (ผสมกานพลูและฝิ่น)
รักษาโรคบิดและท้องร่วงอย่างแรง เปลือกจากลำต้นทับทิม ต้มน้ำใช้ถ่ายพยาธิชนิดต่างๆ
ร่วมกับยาถ่าย
ชาวฮินดู ใช้น้ำคั้นจากผลทับทิม และดอกทับทิม ปรุงยาธาตุ ใช้สมานลำไส้ แก้ท้องเสีย
เมล็ดทับทิมแก้ท้องเสีย ใช้บำรุงหัวใจ
ชาวไทย ทับทิมทั้งต้นหรือทับทิมทั้ง 5 ; ใช้เป็นยาระบาย
หรือถ่ายพยาธิเส้นด้ายและตัวตืด
·
เปลือก
ราก และเปลือกต้น ; ใช้ถ่ายพยาธิตัวตืด, ไส้เดือน, เส้นด้าย และฝาดสมาน
·
ใบ
; สมานแผล แก้ท้องร่วง อมกลั้วคอ ทำยาล้างตา
·
ดอก
; ใช้ห้ามเลือด
·
เปลือกผล
; สมานแผล แก้บิด แก้ท้องร่วง (มีแทนนิน) ร้อยละ 22-25
·
เนื้อหุ้มเมล็ด
; แก้กระหายน้ำ แก้โรคลักปิดลักเปิด
น่าสังเกตว่า
ชาวไทยใช้ประโยชน์จากทับทิมด้านสมุนไพรมากกว่าชาติอื่นๆ
และผลทับทิมในประเทศไทยได้รับความนิยมน้อยกว่าประเทศอื่นๆ
อาจเป็นเพราะว่าพันธุ์ทับทิมที่มีอยู่ในประเทศไทยยังมิใช่พันธุ์ที่ให้ผลคุณภาพดีเยี่ยมสำหรับการบริโภคเป็นผลไม้
สรรพคุณ / ประโยชน์ของทับทิม
ทั้งนี้ได้มีการศึกษาวิจัยในระยะหลังช่วยยืนยันถึงสรรพคุณทางยาและประโยชน์ของทับทิมไว้มากมาย
ได้แก่ ในเปลือกทับทิมมีสารในกลุ่มแทนนินสูงมีสรรพคุณใช้เป็นยาแก้ท้องเดิน
โรคบิด ฆ่าเชื้อแบคทีเรียหลายสิบชนิด ลดอาการอักเสบ ทั้งยังมีฤทธิ์ต่อต้าน
และยับยั้งเซลล์มะเร็งได้หลายชนิดไม่ให้เพิ่มจำนวนขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง
มะเร็งลำไส้ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อลูกหมาก เป็นต้น
การวิจัยทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกาพบว่า
ในน้ำทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดและมีประสิทธิภาพสูงมาก
สามารถลดภาวการณ์สะสมไขมันในผนังเส้นเลือด ป้องกันเส้นเลือดอุดตันและแข็งตัว
ซึ่งจะก่อให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดตามมา
รวมทั้งทำให้เส้นเลือดที่หนาตัวและมีไขมันสะสมซึ่งเป็นเส้นเลือดที่ไม่ดีมีความหนาตัวลดลงและลดไขมันที่สะสมลงอีกด้วย
ช่วยบำรุงหัวใจในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดโดยเพิ่มการไหลเวียนที่ดีขึ้นและลดภาวะหัวใจขาดเลือดในผู้ป่วยโรคหัวใจ
นอกจากนี้สารจากทับทิมยังช่วยบำรุงตับมีฤทธิ์ป้องกันการเป็นพิษต่อตับและยับยั้งเซลล์มะเร็งอีกด้วย รวมถึงมีการทดลองทางเภสัชวิทยาพบว่า
เปลือกหุ้มรากทับทิมมีฤทธิ์ในการขับพยาธิตัวตืด นอกจากนี้เปลือกหุ้มรากยังมีฤทธิ์ต้านเชื้อได้หลายชนิด
เช่น เชื้อไทฟอยด์ เชื้อวัณโรค เป็นต้น และยังมีฤทธิ์ต้านเชื้อราที่ผิวหนังด้วย
ตำรับการแพทย์แผนไทยได้บอกถึงสรรพคุณและประโยชน์ของทับทิมว่า
ใบ มีรสฝาด แก้ท้องร่วง แก้บิดมูกเลือด สมานแผล ดอก มีรสฝาดหวาน ต้มดื่มแก้หูชั้นในอักเสบ
บดโรยแผลที่มีเลือดออก เนื้อมีรสหวานอมเปรี้ยวเป็นยาระบายอ่อน ๆ บำรุงหัวใจ
เปลือกมีรสฝาด ต้มดื่มแก้ท้องร่วง แก้บิดมูกเลือด ถ่ายพยาธิ แก้ตกขาว สมานแผล
ฆ่าเชื้อโรค เปลือกราก ต้มดื่มแก้ระดูขาว แก้ตกเลือด ถ่ายพยาธิ นอกจากนี้ทางสมุนไพรของจีนถือว่าทับทิมมีฤทธิ์เย็น
รสหวานอมเปรี้ยวจึงช่วยแก้กระหาย ป้องกันโลหิตจางระงับกลิ่นปาก ลดไข้ แก้ตาอักเสบ
หลอดลมอักเสบ และบำรุงตา ถึงแม้จะรู้จักกันมาหลายพันปีแล้วว่า
ทับทิมเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้หลายชนิด
แต่ก็ไม่ค่อยมีใครชอบกินทับทิม เหมือนผลไม้อื่น ๆ
แค่นำมาใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้นอาจเป็นเพราะว่าทับทิมมีเนื้อน้อยก็เป็นได้
คุณประโยชน์ของทับทิม
-
ขจัดไขมันส่วนเกิน
ช่วยป้องกันอาการแพ้ท้อง ทำให้ผิวสวย
·
บำรุงกำลัง
ป้องกันโรคขี้หลงขี้ลืมในผู้สูงอายุ
·
ช่วยในระบบฟอกโลหิต
(ล้างสารพิษ) และระบบการหมุนเวียนในร่างกาย
·
ช่วยบำรุง
และฟื้นฟูการทำงานระบบหัวใจ ตับ (ป้องกันการเป็นพิษต่อตับจากสารพิษ)
·
ช่วยบำรุงไต
และท่อปัสสาวะ
·
ต่อต้านการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
และเพิ่มพลัง
·
มีสารต้านอนุมูลอิสระ
หลายชนิดที่มีประสิทธิภาพสูงมาก
·
ป้องกันเส้นเลือดอุดตัน
และแข็งตัว ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจขาดเลือด
·
ควบคุมการทำงานของอินซูลิน
ช่วยฟื้นฟูในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
·
ช่วยในการย่อยอาหาร
ลดอาการจุกเสียด
·
สามารถลดไขมันที่อุดตันในเส้นเลือดที่เป็นอยู่น้อยลงได้
·
ลดความดันโลหิตในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
ถ้ารับประทาน 1 ขวด/วัน
·
สามารถยับยั้งการก่อเซลล์มะเร็งเต้านม
80%
·
ลดอาการวูบวาบ
วิงเวียน และอ่อนเพลียในผู้ป่วยช่วงวัยทอง
(สังคมผู้หญิง.[ออนไลน์]. http://www.n3k.in.th).
การอนุรักษ์ทับทิม
การขยายพันธุ์จากส่วนต่าง ๆ ของพืช
การเพาะเมล็ด
วิธีการที่ใช้ในการขยายพันธุ์พืชแบบอาศัยเพศที่ใช้กันอยู่ทั่วไป
คือ การเพาะเมล็ด มีข้อจำกัดหลายอย่าง กล่าวคือ เป็นวิธีที่ทำให้ได้พืชต้นใหม่ที่มีลักษณะแตกต่างไปจากต้นแม่
ไม่ตรงกับความต้องการ ใช้เวลานานเพื่อรอเก็บผลผลิต
และต้องใช้พื้นที่การปลูกกว้างมากถ้าต้นพืชมีขนาดใหญ่
ทำให้มีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้แทนการเพาะเมล็ด
อย่างไรก็ตามการเพาะเมล็ดก็ยังมีความจำเป็น ดังนี้
1. เพื่อให้ได้ต้นพืชต้นใหม่ที่จะนำมาใช้เป็นต้นตอในการขยายพันธุ์ด้วยวิธีอื่นต่อไป
2. เมื่อพันธุ์พืชที่ต้องการจะขยายพันธุ์นั้นไม่สามารถใช้วิธีการขยายพันธุ์ด้วยวิธีอื่น
3. เมื่อต้องการปรับปรุงพันธุ์พืชสายพันธุ์ใหม่
ๆ
การที่เมล็ดจะสามารถงอกเป็นต้นกล้าและเจริญเติบโตเป็นต้นพืชที่แข็งแรงสมบูรณ์ได้นั้นจะเกี่ยวข้องกับปัจจัย
2 ประการ คือ
1. สภาพความสมบูร์ของเมล็ด
ต้องเป็นเมล็ดที่ยังมีชีวิตและไม่ได้รับความเสียหายในขณะที่ทำการเก็บเกี่ยว
กล่าวคือ มีเมล็ดใหญ่และไม่แตกหัก
2. สภาพแวดล้อม จะต้องมีน้ำ
อุณหภูมิ แสง และแก๊สออกซิเจนอยู่อย่างเพียงพอ
การปักชำ
การปักชำ เป็นการนำส่วนต่าง ๆ
ของพืชพันธุ์ดีที่เราต้องการมาตัดแล้วปักชำลงในวัสดุเพา
เพื่อให้ได้ต้นพืชต้นใหม่จากส่วนที่นำมาปักชำนั้น ส่วนของพืชที่นิยมนำมาปักชำ
ได้แก่ ใบ กิ่ง และราก แต่จะใช้ส่วนใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับชนิดของพืช
การตอนกิ่ง
การตอนกิ่ง
เป็นวิการขยายพันธุ์พืชที่ทำให้กิ่งพืชเกิดรากขณะที่ยังอยู่บนต้น
เมื่อนำกิ่งตอนนี้ไปปลูกจะได้พืชต้นใหม่ที่มีลักษณะเหมือนต้นเดิมทุกประการ
การติดตา
การติดตา เป็นวิธีการขยายพันธุ์พืชที่ใช้ตาของกิ่งพันธุ์ดีไปติดบนต้นตอที่แข็งแรง
มีวิธีทำหลายแบบ เช่น แบบตัวที (T) แบบเปิดเปลือกไม้ 2
ด้าน (คล้ายหน้าต่าง) หรือแบบจะงอยปากนก
การต่อกิ่ง
การต่อกิ่ง
เป็นวิธีการขยายพันธุ์และเปลี่ยนพันธุ์พืชด้วย ทำได้โดยใช้กิ่งพันธ์ดีเพียงพันธุ์เดียวหรือใช้กิ่งพันธุ์ดีหลาย
ๆ พันธุ์ ไปต่อกับต้นตอต้นเดียวกัน เพื่อให้ได้ผลผลิตจากพืชหลายพันธุ์ในต้นเดียว
หรือใช้วิธีต่อกิ่งเพื่อค้ำยันหรือเสริมรากเพื่อยึดลำต้น ไม่ให้ต้นพืชโค่นล้มก็ได้
การปลูกทับทิม
เริ่มแรกของการปลูกทับทิมจะต้องปลูกตามตะวัน
ปลูกเป็นแถวยาวจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก
ถ้าปลูกขวางตะวัน คือปลูกเป็นแถวยาวจากทิศเหนือไปทิศใต้จะส่งผลให้ต้นทับทิมออกดอกติดผลเพียงข้างเดียว
หรือให้ผลผลิตไม่ดก ใช้ระยะระหว่างต้น4 เมตรและระยะระหว่างแถว 7 เมตร จะเหมาะที่สุด เพราะจะช่วยลดปัญหาการสะสมของเชื้อรา ที่เป็นปัญหาหลักของการปลูกทับทิม
แปลงปลูกทับทิมในเชิงพาณิชย์จะต้องมีอากาศถ่ายเทได้สะดวกแสงสว่างส่องได้ทั่วถึง
ปุ๋ยที่ใช้คือ ปุ๋ยคอก และปุ๋ยคอกที่เลือกใช้ คือ “ขี้หมู” นำมาตักราดบริเวณทรงพุ่มต้น
ทับทิม สังเกตจากการใช้ขี้หมูพบว่า ต้นทับทิมแตกใบใหญ่และเขียวเป็นมัน ถ้าซื้อขี้หมูจากฟาร์มที่ชาวบ้านหรือบริษัทเอกชนเลี้ยงมักจะมีการ
ใช้ยาฆ่าเชื้อเพื่อดับกลิ่นเหม็นหรือฆ่าเชื้อราซึ่งมีสารโซดาไฟ
เมื่อนำมาใส่ให้กับต้นทับทิมอาจจะเป็นพิษกับต้นทับทิมได้ จะต้องระวังเป็นพิเศษ
สำหรับปุ๋ยเคมีที่ใช้จะเน้นสูตร8-24-24
โดยใช้ในปริมาณ 20% ของการใช้ปุ๋ยทั้งหมดจะใส่ในช่วงเตรียมต้นก่อนออกดอก
และมีการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์แลปรับปรุงคุณภาพของผลบ้าง
ปัญหาของทับทิม ผลแตกจะเกิดจากสาเหตุใหญ่ๆ2 ประการ คือ ผลถูกทำลายด้วยโรคแอนแทรกโนส
ในช่วงระยะการเจริญเติบโตของผลทับทิมและมีเชื้อแอนแทรกโนสเข้าทำลายที่ผลอ่อนจนเกิดแผล
ทำให้ผลไม่ขยายและแตกในที่สุด
แนะนำให้มีการฉีดพ่นสารฆ่าเชื้อราในกลุ่มคอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ แต่จะต้องฉีดใน
ช่วงที่ต้นทับทิมยังไม่ออกดอก
แต่ถ้าช่วงระยะทับทิมออกดอกและติดผลอ่อนแนะนำให้ใช้สารโวเฟ่น
แต่การป้องกันโรคแอนแทรกโนสแบบยั่งยืนคือ เรื่อง “การจัดการแสงและทิศทางลม”
เป็นที่สังเกตว่าเกษตรกรที่ปลูกทับทิมในระบบชิดจะเกิดปัญหาโรคแอนแทรกโนสระ
บาดง่ายและค่อนข้างรุนแรง “ผลทับทิมโดนแดดเผา” หรือที่ภาษาทางวิชาการเรียก
ซันเบิร์น ผลทับทิมที่โดนแดดมากๆ
จะทำให้ผิวเปลือกทับทิมด้าน ไม่สามารถขยายผลได้
เมื่อได้รับน้ำหรือมีฝนตกลงมาหรือมีการใส่ปุ๋ยจะทำให้ผลแตกได้ แต่สำหรับทับทิมพันธุ์ศรีปัญญามีข้อดีตรงที่ขนาดของผลใหญ่
ทำให้ผลมักจะห้อยตกอยู่ภายในทรงพุ่ม จึงไม่ได้สัมผัสแดดโดยตรง แต่ถ้าเป็นทับทิมสายพันธุ์อื่นๆ
จะแก้ปัญหาด้วยการห่อผลโดยห่อในระยะผลมีอายุได้ประมาณ40-45 วันหลังจากติดผลอ่อนและจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้หลังจากห่อผลไป
ประมาณ1 เดือนครึ่ง หรือสังเกตง่ายๆ คือ
ห่อในระยะที่ขนาดผลทับทิมใหญ่ใกล้เคียงกับผลส้มเขียวหวาน
จะช่วยลดปัญหาเรื่องแดดเผาได้ (ปลูกปัญญา.[ออนไลน์].
http://www.trueplookpanya.com/new/cms_detail/knowledge/2200-00/).
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น